Tuesday, 21 March 2023

B.I (บีไอ) พร้อมกลับมามอบความสนุก ประเดิมทวีปเอเชียทัวร์ใน “ไทย” เป็นที่แรก ปักหมุดเจอกัน 4 มี.ค. นี้!

หนุ่มหล่อฝีมือยอดเยี่ยม ดีกรีโปรดิวเซอร์แห่งวงการ K-POP อย่าง บีไอ (B.I) หรือ คิมฮันบิน จัดแจงบินลัดฟ้ากลับมามอบความสนุกให้กับเหล่าไอดีไทยอีกครั้ง! พร้อมเปิดฉากจัดเอเชียทัวร์ใน “ไทย” เป็นที่แรก ในงาน B.I 2023 ASIA TOUR “L.O.L THE HIDDEN STAGE” คอนเฟิร์มมาแน่ 4 มีนาคมนี้

บีไอ

โดยเมื่อวันที่ 23 มกราคม ทาง บีไอ (B.I) ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ

พร้อมปล่อยภาพโปสเตอร์เอเชียทัวร์ที่จะเกิดขึ้นในปี 2023
ซึ่งได้รับการยืนยันทั้งหมด 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเชีย รวมทั้ง สิงคโปร์ เป็นลำดับ ดังต่อไปนี้

4 มีนาคม – กรุงเทพฯ ประเทศไทย
5 มีนาคม – มะนิลา ฟิลิปปินส์
10 มีนาคม – จาการ์ตา อินโดนีเซีย
19 มีนาคม – สิงคโปร์

สำหรับงานในประเทศไทย ได้มีการระบุวันรวมทั้งสถานที่จัดงาน

ว่างานจะจัดขึ้นในวันที่ 4 มีนาคมนี้ ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี โดยสามารถติดตามความเคลื่อนไหวจากทางโซเชียลมีเดียของผู้จัด Four One One Entertainment (โฟร์ วัน วัน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์) ซึ่งคาดว่าเนื้อหาต่าง ๆ จะถูกประกาศออกมาให้ได้รู้กันในเร็ว ๆ นี้

บีไอ นับว่าเป็นศิลปิน K-POP มากความสามารถ

ที่น่าจับตาดู ทั้งเจ้าตัวยังพิสูจน์ความถนัดต่าง ๆ พวกนี้ ผ่านการโปรดิวซ์เพลงอันสะดุดตา และก็เคยคว้ารางวัล นักแต่งเพลงแห่งปีจากงาน Melon Music Awards 2018 ซึ่งนับเป็นเครื่องการันตีฝีมืออันยอดเยี่ยม อีกทั้งสไตล์การแร็ปแล้วก็การร้องยังเป็นเอกลักษณ์ส่วนตัว

ในปีที่ผ่านมา บีไอ ได้ปล่อยผลงานเพลง ‘BTBT’ ที่ฟีทเจอริ่งกับ Soulja Boy และก็ Devita รวมทั้งร่วมงานกับ ชู LOONA ในซิงเกิลคอลแลป ‘Lullaby’ ในโปรเจกต์พิเศษของ Dingo Music

ฟ้าหลังฝน! ย้อนรอยชีวิตเกือบตรงลงเหวของ B.I กับเส้นทางใหม่ที่สดใสกว่าเดิม

วันที่ 9 มิถุนายน 2019 ข่าวไม่ดีข่าวเร่งด่วนตีแสกหน้าค่ายดังอย่าง YG กระเทือนศิลปินไอดอลวง iKON รวมทั้งผ่าลงกลางศีรษะของ ‘B.I’ หรือ ‘Kim Hanbin’ หนึ่งในสมาชิกของวงแบบไม่ทันได้ตั้งตัว เมื่อเนื้อหาในเนื้อหาที่สื่อ Dispatch นำเสนอกล่าวอ้างว่ามีหลักฐานชี้ว่าตัวบีไอนั้นเคยติดต่อขอซื้อยาเสพติดกับผู้ค้ายารายหนึ่งมาก่อนในตอนปี 2016

มรสุมลูกใหญ่ในวัย 23 ปี

ระหว่างการสอบปากคำให้ปากคำแล้วก็อีกหลายกระบวนการฟ้องคดียุติธรรมที่เกิดขึ้น และก่อนที่เรื่องราวจะบานปลายกันไปใหญ่กว่านี้ ในวันที่ 12 มิถุนายน บีไอตัดสินใจยืดอกยอมรับในสิ่งที่ตัวเขากล่าวว่า “ไม่ได้ทำ” อย่างลูกผู้ชาย แล้วก็กล่าวถึงอดีตของตัวเองด้วยความรู้สึกขมปากว่า “เป็นความจริงที่ผมเคยคิดจะพึ่งพามันในช่วงเวลานั้นที่ผมมีปัญหาและปวด แต่สุดท้ายแล้วผมก็กลัวแล้วก็กลัวมากจึงไม่ได้ใช้มัน ผมทราบสึกละอายใจแล้วก็สำนึกผิดในการกระทำที่ผิดพลาด ผมก็เลยขอถอนตัวออกจากวงและก็ต้องการจะขอโทษแฟน ๆ และก็สมาชิกในวงจากใจจริง”
จุดเริ่มต้นของรอยร้าวในชีวิตเกิดขึ้นเพียงแค่เพราะว่าความคิดชั่ววูบเวลานี้ บีไอคงจะหลงลืมไปว่า มันจะมีผลกระทบอย่างยิ่งใหญ่ตามมาให้ต้องเรียนผูกรวมทั้งเรียนแก้ด้วยตัวเอง

ด้วยความรู้สึกผิดต่อเพื่อนร่วมวงและก็กลัวว่า ปัญหานี้จะกลายเป็นเครื่องฉุดรั้งให้วงต้องเสียชื่อเสียง แล้วก็ทำให้แฟน ๆ อย่างไอคอนิกต้องผิดหวังที่เขาไม่สามารถเป็นตัวอย่างที่ดีได้ บีไอเลือกหันหลังให้กับวงไอคอนและก็ค่ายวายจี เขาหลบจากแสงสีถอยหลังเข้าสู่เงามืดอย่างรวดเร็วเพื่อจัดการปัญหาที่ยังคงคาราคาซังอยู่ ซึ่งหากแม้ผลตรวจหาสารเสพติดจากทางสำนักงานอัยการรวมทั้งจากทางค่ายจะออกมาว่าเป็นลบ ถ้าเกิดวายจีเองก็ได้ออกแถลงการณ์ถึงเรื่องนี้ว่าเคารพการตัดสินใจการลาออกของไอดอลหนุ่มโดยไม่พยายามที่จะยื้อเขาไว้แต่อย่างใด

แม้เรื่องใหญ่ระดับผิดกฎหมายคำว่าขอโทษอาจไม่เพียงพอ ไฟไหม้ที่ว่าดันโหมกระพือกลายเป็นไฟลามทุ่ง เมื่อมือดีชาวโซเชียลขุดรากถอนโคนเรื่องราวนี้ออกมาทั้งยังยวงพร้อมประจานไม่ยั้งว่าประธานค่าย ‘ยางฮยอนซอก’ มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแบบเต็มประตู เมื่อย้อนไปปี 2016 ‘ฮันซอฮี’ หญิงสาวที่อ้างว่าเป็นอดีตเด็กฝึกจากค่ายวายจีกลับคำให้การหลังการเข้าพบของบิ๊กบอสจากค่าย ว่าอันที่จริงแล้วบีไอไม่ได้มีส่วนร่วมในกระบวนการซื้อขายยาเสพติด ทำเอาใครผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยวิพากษ์ไปว่านี่อาจจะเป็นการปิดปากเพื่อไม่ให้เธอคนนั้นพูดถึงศิลปินในค่ายของเขาเสีย ๆ หาย ๆ บังเอิญกับที่ตอนนั้นป๋ายางเองโดนกระแสลบตีกลับในหลายเรื่อง ทั้งยังการโดนกล่าวกล่าวหามีส่วนร่วมในกระบวนการค้าประเวณีร่วมกับศิลปินในค่ายอย่าง ‘ซึงรี’ ซึ่งช่วงนี้ติดคุกไปแล้ว และไหนจะเรื่องคลับในย่านฮงแดที่เขาเป็นเจ้าของนั้นมีการสอบสวนเรื่องการเลี่ยงภาษีและจดทะเบียนการค้าผิดรูปแบบ สุดท้ายต้องรับผิดชอบทั้งหมดด้วยการทิ้งเก้าอี้ผู้บริหารและลาออกไป ค่ายวายจีจึงก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ด้วยบรรยากาศที่ออกจะไม่ชัดแจ้ง

คิมฮันบิน

ในวันที่ iKON ไม่มีเงาหัวหน้าวง

ถ้าเกิดไม่นับ Blackpink ที่ยังคงทำรายได้มหาศาลแล้วก็สร้างชื่อเสียงให้พุ่งทะยานไปถึงฝั่งตะวันตกแล้ว วงอื่นกลับถูกทิ้งจนถึงลืมตามฉายาที่ใคร ๆ ก็ถูกใจกล่าวว่า “วายจีชอบดองเด็กในสังกัด” ยิ่งไอคอนเองก็เรียกว่ารับศึกหนักแบบเต็ม ๆ เช่นกัน ในวันที่วงไร้เงาหัวหน้าอย่างบีไอผู้เป็นเรี่ยวแรงมหาศาลที่ทำหน้าที่อีกทั้งแต่งเพลง เป็นโปรดิวเซอร์ ออกแบบท่าเต้น และร้องแร๊ปให้กับวง การดำเนินต่อของไอคอนก็เรียกว่าราวกับเป็นอัมพฤกษ์ไปตอนหนึ่ง หากแม้ตอนต้นปี 2020 วงจะมีการคัมแบ๊กปล่อยเพลงออกมา
แต่ก็เรียกได้ว่าล้มเหลว ชาร์ตเพลงหล่นต่ำลงอย่างรวดเร็วทันใจ เหตุด้วยเหตุว่าแฟน ๆ ส่วนหนึ่งทำใจไม่ได้ที่วงยังดึงดันใช้เพลงที่บีไอทำเอาไว้ในการโปรโมต แม้ทางค่ายจะมีการปรับเปลี่ยนเมโลดี้และเนื้อเพลงบางส่วนและตาม แล้วก็ถึงแม้ตัวบีไอจะรับผิดชอบด้วยการลาออกจากวงไปแล้ว แต่แฟน ๆ บางส่วนก็ยังไม่ค่อยพอใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นพากันหันหลังโบกมือลาวงไอคอนไปหลายท่าน

แต่แสงไฟมักปรากฏที่ปลายอุโมงค์เสมอ เมื่อค่ายยอมให้วงไปออกรายการแข่งขันอีกรอบเพื่อพิสูจน์ความสามารถของอีก 6 ชายหนุ่มที่เหลืออยู่อย่างวาไรตี้ ‘Kingdom’ รายการที่จับเอาวงบอยแบนด์หลายวงมาแข่งขันกันหาสุดยอดไอดอลในช่วงต้นปี 2021 รวมทั้งแม้วงจะชวดรางวัลที่หนึ่งไปแต่ก็พิสูจน์ให้แฟนคลับและก็วงการเคป๊อปได้มีความคิดเห็นว่า ไอคอนมีเพลงดังมากมายที่ฝังอยู่ในใจทุกคน รวมทั้งยังคงดำรงตำแหน่งเป็นไอคอนแห่งเคป๊อปได้ในที่สุด ซึ่งหลังจากนี้แฟน ๆ ไอคอนิกคงต้องมาตามลุ้นกันว่ากล่าวเส้นทางของวงจะเดินไปในรูปแบบไหน เพราะเหตุว่าล่าสุดอีกหนึ่งสมาชิกตำแหน่งร้องแร๊ปอย่าง ‘Bobby’ เองก็พึ่งจะประกาศข่าวดีเรื่องการแต่งงานแล้วก็มีเบบี๋ตัวน้อยไปแล้วด้วย

ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ

ย้ายกลับมาที่บีไอเองแม้ดูราวกับวิถีทางชีวิตจะขรุขระและเงียบหายไปจากวงการสักพัก ถ้าหากความรักในดนตรีและก็การร้องเพลงยังคงเป็นแรงผลักดันให้กับเขาเสมอ บีไอยังคงขีดเขียนเพลงแล้วก็ปล่อยเดโม่ของตนใน Soundcloud เป็นช่วง ๆ แม้นอกเหนือไปกว่าข่าวพันพัวด้านลบที่เขาต้องเจอ บีไอกลับได้รับการเสนอชื่อให้นั่งแท่นเป็นกรรมการบริษัท IOK Company ขึ้นอยู่กับที่เต็มไปด้วยคนบันเทิงตั้งแต่นักร้อง นักแสดง และพิธีกรอีกหลายสิบชีวิต นี่คือค่ายดังที่คนในประเทศรู้จักกันดีว่ามักจะกวาดคนบันเทิงที่มีความสามารถมานั่งแท่นบริหารองค์กรด้วยกันทั้งสิ้น และก็แน่นอนว่าเขาตอบตกลงตำแหน่งนี้เพื่อเริ่มต้นอีกหนึ่งบทบาทของตัวเอง และก็เป็นการเปิดประตูก้าวเข้าสู่การเป็นนักร้องอีกครั้ง

ชีวิตบีไอไต่ขึ้นจากเหวลึกตามลำดับและฟื้นตัวขึ้นอย่างเร็วทันใจด้วยความสามารถและสองแขนของเขา ยังมีเพื่อนรุ่นพี่อย่างวง ‘Epik High’ ที่ยังคงมั่นใจรวมทั้งชื่นชมในความสามารถของเขาได้เชิญชวนให้มาร่วมงานในเพลง ‘Acceptance Speech’ ที่ปล่อยออกไปในตอนต้นเดือนมกราคมปี 2021 โดยไม่สนใจว่าจะมีกระแสตีกลับหรือไม่ เพราะว่าศิลปินด้วยกันเองเข้าใจกันดีถึงความสามารถอันแพรวพราวของเขา ซึ่งบีไอนับว่าเป็นไอดอลรุ่นใหม่ที่ได้รับเสียงชื่นชมในความสามารถจากการเป็นไอดอลคนแรกที่ชนะรางวัลแต่งเพลงดีที่สุดจาก Melon Music Awards ในปี 2018 และก็ยังได้รับเครดิตในฐานะนักแต่งเพลงรวมทั้งโปรดิวเซอร์อีกมากมายจากค่ายเก่าอย่างวายจีอีกด้วย

แล้วต่อจากนั้นไม่นานนักเขาเดินหน้าปล่อยซิงเกิ้ล

อัลบั้ม ‘Midnight Blue (Love Streaming)’ เป็นอัลบั้มเพื่อการกุศลภายใต้ค่าย 131 Label ที่บีไอเป็นผู้ก่อตั้งและเป็นสังกัดย่อยของ IOK Music กระแสของชายหนุ่มคนนี้เริ่มกลับมาอีกครั้ง เมื่อ 3 เพลงในอัลบั้มชี้แจงความหมายที่ลึกซึ้งและต้องการปลอบโยนความเหนื่อยล้าให้กับตนเองรวมทั้งแฟน ๆ
ใจความที่จริงใจที่สุดส่งต่อถึงคนที่กำลังผ่านตอนเวลาที่ยากลำบาก สะท้อนความเข้าใจ รวมทั้งเข้าถึงผู้ฟังได้ลึกถึงส่วนลึกของความคิด

ต่อด้วยการเชิญชวนศิลปินฝั่งตะวันตกอย่าง ‘Destiny Rogers’ และก็ ‘Tyla Yaweh’ มาร่วมงานในซิงเกิ้ลใหม่ แสงสว่างเริ่มสาดชัดมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อบีไอเดินหน้าปล่อยอัลบั้มเต็มทั้งหมด 12 เพลงในชื่อว่า ‘Waterfall’ ที่ยังขอแรงเพื่อนสนิทจากค่ายเก่าอย่างนักร้องพลังเสียง ‘Lee Hi’ และก็รุ่นพี่คนสนิทอย่าง ‘Tablo’ มาร่วมงานในอัลบั้มนี้อีกด้วย การกลับมาคราวนี้บีไอเปลี่ยนไป เขาสุขุมและสงบมากขึ้นยามออกกล้อง ถ้าเกิดความเป็นศิลปินอย่างเต็มกำลังยังฉายชัดถึงแพชชั่นที่มี สไตล์เพลงที่เปลี่ยนไปมีการผสมผสานแนวป๊อปฟังสบาย และก็ความเป็นโซลเข้ามาเติมเต็ม นับว่าเป็นการก้าวออกมาจากกรอบเพลงที่เรียกว่าเคป๊อปได้อย่างสิ้นเชิง

บทเรียนราคาแพงที่แลกมาด้วยเกือบทุกอย่าง ชีวิต กิตติศัพท์ อนาคต รวมทั้งความฝัน สอนให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่แข็งแกร่งมากขึ้น สำหรับบีไอแล้วเขาก็เลยไม่ใช่แค่ไอดอล แต่เขาเป็นตัวอย่างของชีวิตที่มีจังหวะขึ้นและก็ลง ถ้าสิ่งที่สำคัญคือ ความฝันและความไม่ยอมแพ้ที่จะฉุดตัวเองขึ้นจากปากเหวได้อีกครั้ง คงจะไม่สำคัญว่าล้มเมื่อใด แต่ลุกได้เร็วแค่ไหนเป็นคำตอบของการใช้ชีวิตต่างหาก แล้วก็จากนี้เรามั่นใจว่าทางชีวิตของเขาจะต้องพุ่งทะยานขึ้นสู่ยอดเขาอีกรอบ เพราะไม่ว่าอย่างไรวงการเคป๊อปนี้ก็ยังต้องการคนเก่งอย่างผู้ชายที่ชื่อว่า “บีไอ” อยู่แล้ว